แนะนำภาษาไพทอน

บทเรียนแรกที่จะพาคุณไปรู้จักกับภาษาโปรแกรมที่ทรงพลังและเรียนรู้ง่ายที่สุดในยุคนี้

Python คืออะไร?

ลองจินตนาการว่า Python คือ ชุดตัวต่อเลโก้สำหรับสร้างโปรแกรม ครับ

มันคือภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับสูง (High-level) ที่ถูกออกแบบโดยเน้นให้มีโครงสร้างและไวยากรณ์ของภาษาที่ "อ่านง่าย" และ "เข้าใจง่าย" ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถโฟกัสไปที่การแก้ปัญหาได้มากกว่าการมาพะวงกับกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อน

ด้วยความเรียบง่ายและทรงพลังนี้ ทำให้ Python กลายเป็นเครื่องมือชิ้นโปรดของโปรแกรมเมอร์ทั่วโลก ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Netflix และ Instagram

ทำไมต้องเลือกเรียน Python?

เรียบง่ายและสั้นกระชับ

ไวยากรณ์คล้ายภาษาอังกฤษ ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็วและเขียนโค้ดได้น้อยลง
ตัวอย่าง: การแสดงข้อความใน Python ใช้แค่ `print("Hello")` ในขณะที่ภาษาอื่นอาจต้องเขียน 3-4 บรรทัดสำหรับงานเดียวกัน

ใช้งานได้หลากหลาย

เหมือนมีดพับสวิส! สามารถใช้สร้างเว็บ, วิเคราะห์ข้อมูล, สร้าง AI, พัฒนาเกม, ไปจนถึงควบคุมหุ่นยนต์
ตัวอย่าง: Netflix ใช้ Python วิเคราะห์พฤติกรรมการดูหนังเพื่อแนะนำเรื่องถัดไปให้คุณ

ชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่

เมื่อคุณติดปัญหา มีโอกาสสูงมากที่จะมีคนเคยเจอและแก้ปัญหานั้นไว้แล้ว
ตัวอย่าง: แค่ค้นหาใน Google ว่า "how to read a file in python" คุณจะเจอคำตอบและตัวอย่างโค้ดนับล้าน

เลือกเครื่องมือคู่ใจ (Code Editors)

Code Editor คือโปรแกรมที่เราใช้สำหรับเขียนโค้ด เปรียบเสมือน "สมุดจดโค้ดอัจฉริยะ" ที่ช่วยระบายสีโค้ดให้เราอ่านง่าย, ตรวจหาข้อผิดพลาดเบื้องต้น, และมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมาย โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ:

Offline Editors (โปรแกรมติดตั้งบนเครื่อง)

เป็นโปรแกรมที่เราต้องดาวน์โหลดและติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ของเราโดยตรง เหมาะสำหรับการทำงานจริงจัง, ทำโปรเจกต์ใหญ่ และทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต

ตัวอย่างที่ 1: Visual Studio Code (VS Code)

  • มืออาชีพใช้: เป็นที่นิยมสูงสุดในหมู่นักพัฒนาทั่วโลก
  • ส่วนเสริมเยอะ: มี Extension นับพันให้เลือกติดตั้งเพื่อเพิ่มความสามารถ
  • ฟรี: ใช้งานได้ฟรี 100% จาก Microsoft
  • ซับซ้อนเล็กน้อย: สำหรับผู้เริ่มต้น อาจรู้สึกว่ามีปุ่มและเมนูเยอะเกินไป
  • ต้องติดตั้ง Python เอง: ต้องติดตั้งโปรแกรม Python แยกต่างหาก

ตัวอย่างที่ 2: Thonny

  • เพื่อผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ: ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายที่สุด
  • มี Python ในตัว: ติดตั้งครั้งเดียวจบ พร้อมใช้งานทันที
  • เครื่องมือง่าย: ระบบตรวจหาข้อผิดพลาด (Debugger) เข้าใจง่ายมาก
  • ฟีเจอร์น้อย: ไม่เหมาะกับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน

Online Editors (ใช้งานผ่านเว็บไซต์)

ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น แค่มีเว็บบราวเซอร์และอินเทอร์เน็ตก็สามารถเริ่มเขียนโค้ดได้ทันที เหมาะสำหรับการเรียนรู้, ทำโจทย์เล็กๆ, และแชร์โค้ดให้คนอื่นดู

ตัวอย่างที่ 1: Replit

  • เริ่มได้ทันที: เปิดเว็บแล้วเขียนโค้ดได้เลย
  • แชร์ง่าย: แค่ส่งลิงก์ให้เพื่อน ก็สามารถดูและรันโค้ดของเราได้
  • ต้องมีอินเทอร์เน็ต: ไม่สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้
  • ข้อจำกัดเวอร์ชันฟรี: ประสิทธิภาพและความสามารถอาจมีจำกัด

ตัวอย่างที่ 2: Google Colab

  • เหมาะกับงานข้อมูล/AI: เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับงานด้าน Data Science
  • เข้าถึง GPU ฟรี: สามารถใช้พลังประมวลผลสูงๆ ได้ฟรี
  • ไม่เหมาะกับแอปทั่วไป: การทำงานเป็นแบบ "สมุดโน้ต" ไม่เหมาะกับการสร้างโปรแกรมที่รันต่อเนื่อง

คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น

สำหรับคอร์สเรียนนี้ หากคุณต้องการเริ่มต้นเขียนโค้ดอย่างรวดเร็วที่สุดโดยไม่ต้องติดตั้งอะไร การใช้ **Online Editor** อย่าง **Replit** ก็เพียงพอแล้วครับ แต่หากคุณต้องการติดตั้งโปรแกรมไว้บนเครื่องเพื่อการเรียนรู้ระยะยาว ขอแนะนำ **Thonny** เพราะมันถูกสร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ!

ประวัติย่อของ Python

Python ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์ชาวดัตช์ชื่อ Guido van Rossum โดยเริ่มพัฒนาในช่วงวันหยุดคริสต์มาสปี 1989 และเผยแพร่เวอร์ชันแรกในปี 1991

เกร็ดน่ารู้: ชื่อ "Python" ไม่ได้มาจากชื่องู แต่มาจากชื่อคณะตลกของอังกฤษที่ Guido ชื่นชอบ คือ "Monty Python's Flying Circus" ครับ!

1991
Python 0.9.0 ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะครั้งแรก
2000
Python 2.0 เปิดตัว พร้อมฟีเจอร์สำคัญใหม่ๆ ที่ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
2008
Python 3.0 เปิดตัวเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องหลักๆ ของภาษา และกลายเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน

โค้ดแรกของคุณ (Hello, World!)

ตามธรรมเนียมของการเรียนเขียนโปรแกรม โปรแกรมแรกที่เราจะเขียนคือการสั่งให้คอมพิวเตอร์แสดงข้อความทักทาย นี่คือตัวอย่างครับ

Python Terminal
# บรรทัดที่ 1: สร้างตัวแปรชื่อ name เพื่อเก็บข้อความ "ผู้เรียน"
name = "ผู้เรียน"

# บรรทัดที่ 2: ใช้ฟังก์ชัน print() เพื่อแสดงผลข้อความออกทางหน้าจอ
# f"..." คือ f-string ทำให้เราแทรกค่าจากตัวแปร {name} ลงในข้อความได้เลย
print(f"สวัสดี, {name}! ยินดีต้อนรับสู่โลกของ Python")